
The Skincare Handbook by AMT Skincare
คอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับผิว และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับสกินแคร์
ตอนที่ 16 สิว (บทความครึ่งหลัง : สิวอื่น ๆ)
สวัสดีครับ พบกันอีกเช่นเคยครับกับบทความเกี่ยวกับผิวและวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อง “สิว” ต่อครับ โดยในตอนนี้ผมจะมาพูดถึงสิวอื่น ๆ ซึ่งได้แก่
สิวฮอร์โมน
สิวไม่มีหัว
สิวผด
และสุดท้ายก็คือ สิวหน้ากาก ครับ

สิวฮอร์โมน (Period Acne)
ก่อนอื่น อยากให้ ลองดูกราฟนี้ครับ กราฟนี้แสดงปริมาณฮอร์โมนที่ร่างกายหลั่งออกมาในช่วงเวลาต่าง ๆ ของรอบเดือนครับ โดย
– เส้นสีเหลือง คือ Progesterone Hormone ซึ่งมีผลกระตุ้นให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากผิดปกติครับ จะเห็นได้ว่าฮอร์โมนนี้ถูกปล่อยออกมามากในช่วง 0-7 วันก่อนที่จะมีประจำเดือนครับ ช่วงนี้เองจะเป็นช่วงที่มักมีสิวขึ้นครับ
– เส้นสีชมพู คือ Estrogen Hormone ซึ่งมีผลกระตุ้นให้ผิวอุ้มน้ำได้ดี และยังช่วยให้ผิวชั้นในมีการสร้าง Collagen เพิ่มขึ้น ผิวจะมีความยืดหยุ่น เราจะเห็นได้ว่าฮอร์โมนนี้ถูกปล่อยออกมามากในช่วง 0-7 วันก่อนที่จะมีการตกไข่ ช่วงนี้เองจะเป็นช่วงที่ผิวสวย นุ่มเด้ง ชุ่มน้ำครับ
– สิวฮอร์โมนเห็นเป็นยังไง ?
– เป็นจุดบวม แดง ขนาดใหญ่ อักเสบ มีหนองอยู่ภายใน มักเกิดบริเวณจมูก รอบปาก และคาง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก
เกิดอะไรขึ้น ?
– เหมือนสิวอักเสบติดเชื้อทั่วไป นั่นคือ มีไขมันอุดตัน ภายในมีเชื้อสิว
แล้วทำไมถึงเกิด ?
– Progesterone กระตุ้นให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย
แล้วจะทำยังไงดี ?
– ห้ามกดเด็ดขาด !!!
– ล้างหน้าให้สะอาด
– ให้ความชุ่มชื้นทั้งน้ำ และไขมัน โดยเน้นให้น้ำมัน Inner Oil
– หากเป็นมากอาจมีการรักษาด้วย Hormone ชนิดเม็ด โดยการใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

สิวไม่มีหัว
สิวไม่มีหัว มีโอกาสเป็นไปได้หลายกรณีครับ
กรณีที่ 1 คือ สิวอักเสบติดเชื้อปกติ รวมถึงสิวหัวช้าง ซึ่งเป็นสิวอุดตันชนิดหนึ่งครับ
กรณีนี้จะ “ไม่มี” จุดดำ ๆ ตรงกลาง และขนาดของสิวจะค่อนข้างคงที่ ไม่ขยายใหญ่ไปเรื่อย ๆ
เมื่อทิ้งไว้ 2-3 วัน จะเริ่มมีหัวสิวโผล่ขึ้นมา (รายละเอียด อ่านย้อนหลัง ตอนที่ 15 สิวอุดตัน)
https://www.facebook.com/amtskincare/posts/194863225492855
หากทิ้งไว้ 2-3 วันแล้วยังไม่มีหัวสิวโผล่ขึ้นมา เป็นไปได้ว่า สาเหตุของการอุดตันเกิดอยู่ต่อเนื่อง
จนทำให้ไขมันที่อุดตันอยู่ภายใน ไม่ดันตัวขึ้นมาซักที
เป็นไปได้ว่า การล้างเครื่องสำอางที่ทำอยู่อาจจะไม่เหมาะสม
หากเป็นนาน และเจ็บมาก มีความจำเป็นต้องพบแพทย์
ส่วนกรณีที่ 2 ซึ่งพบได้น้อยกว่า คือ Epidermoid Cyst
ซึ่งมักจะมีจุดสีดำตรงกลาง สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของการผลัดเซลล์ผิว
โดยผลัดเข้าภายใน ผสมกับไขมัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำให้เกิดเป็น ก้อน ซึ่งจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะใหญ่เป็น เซนติเมตร มีกลิ่นเหม็น ควรรีบพบแพทย์เพื่อผ่าออก

สิวผด (Acne Aestivalis)
เห็นเป็นยังไง ?
– เห็นเป็นจุดแดง ๆ เล็ก ๆ ตรงกลางจุดอาจมีตุ่มน้ำใส ๆ โดยมักเกิดบริเวณที่โดนแดดบ่อยและมีเหงื่อออกมาก เช่น หน้าผาก
เกิดอะไรขึ้น ?
มีการอักแสบและอุดตันของต่อมเหงื่อ และอาจมีการติดเชื้อร่วมด้วย ถ้าจับด้วยมือสกปรกบ่อย ๆ
แล้วทำไมถึงเกิด ?
สาเหตุยังไม่แน่ชัด แต่มีความสัมพันธ์กับการโดนแดดจัด ความร้อน และเหงื่อ
และมีความสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์ ส่วนมากพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
แล้วจะทำยังไงดี ?
หายเองได้ใน 2-3 วัน ให้ดูแลโดยการรักษาความสะอาด แต่ไม่ให้ล้างหน้าแรง ๆ
เพราะการเสียดสีก็ยิ่งทำให้การอักเสบแย่ขึ้น ลดการโดนแดดจัด และใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นทั้งน้ำและไขมัน

สิวหน้ากาก (Maskne)
ปิดท้ายด้วยสิวหน้ากาก หรือ Maskne (อ่านว่า มาส์ก-เน่) เป็นคำใหม่ที่เกิดจากการเชื่อมคำระหว่าง Mask + Acne
ที่จริงแล้วสิวหน้ากากก็คือ สิวอุดตันอักเสบติดเชื้อ นั่นเอง ดังนั้น หากเกิดสิวขึ้นแล้วให้ดูแลเหมือน สิวอุดตันอักเสบติดเชื้อ
(รายละเอียด อ่านย้อนหลัง ตอนที่ 15 สิวอุดตัน)
https://www.facebook.com/amtskincare/posts/194863225492855
เพียงแต่ สิ่งที่เราควรรู้คือ “ทำไมใส่หน้ากากแล้วเกิดสิว”
สตอรี่มันเป็นแบบนี้ครับ
1.เวลาเราใส่หน้ากาก แล้วพูด หรือตอนที่เราขยับหน้ากากไปมา ผิวหน้าจะเสียดสีกับหน้ากากทีละน้อย ๆ
2.การเสียดสีนี้ ส่งผลให้ Skin Barrier ถูกทำลาย มีเศษเซลล์เกิดขึ้นจากการทำลายเป็นจำนวนมาก และเริ่มไปอุดตันทางเปิดของต่อมไขมัน พร้อมกันนี้เมื่อ Skin Barrier ถูกทำลาย ผิวจะเสียน้ำง่ายขึ้น ทำให้ผิวพยายามจะป้องกันการเสียน้ำโดยสร้างไขมัน และปล่อยออกมา
3.แต่ทางเปิดของต่อมไขมันมีเศษเซลล์อุดอยู่ จึงทำให้เกิดเป็นสิวอุดตัน
4. ซ้ำร้าย ภายใต้หน้ากาก มีปริมาณอากาศน้อย และสกปรก จึงทำให้เชื้อสิวซึ่งไม่ชอบอากาศเจริญเติบโตดี ส่งผลให้สิวอุดตัน นั้นมีการติดเชื้อ และอักเสบรุกลาม เป็นสิวเม็ดใหญ่ ๆ

จากสตอรี่นี้ เราสามารถป้องกัน สิวหน้ากาก ได้ 2 วิธีครับ คือ
1. ลดการเสียดสี – เลือกหน้ากากที่ใหญ่ มีช่องว่างระหว่างผิวกับหน้ากาก หรือเลือกหน้ากากที่ผิวสัมผัสนิ่ม
2.เพิ่มความแข็งแรงของ Skin Barrier – เลือกใช้สกินแคร์ที่ส่งเสริม Skin Barrier ให้แข็งแรง ป้องกันการเสียน้ำ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวไม่ผลิตไขมันเกินจำเป็น นั่นเองครับ
Tag : สิว Beauty tips
#AMTSkincare #AMTHandbook #Skincare #AMTfamily #สกินแคร์ #YourSkinGuardian
ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่

The Skincare Handbook by AMT Skincare
คอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับผิว และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับสกินแคร์
ตอนที่ 16 สิว (บทความครึ่งหลัง : สิวอื่น ๆ)
สวัสดีครับ พบกันอีกเช่นเคยครับกับบทความเกี่ยวกับผิวและวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่อง “สิว” ต่อครับ โดยในตอนนี้ผมจะมาพูดถึงสิวอื่น ๆ ซึ่งได้แก่
สิวฮอร์โมน
สิวไม่มีหัว
สิวผด
และสุดท้ายก็คือ สิวหน้ากาก ครับ

สิวฮอร์โมน (Period Acne)
ก่อนอื่น อยากให้ ลองดูกราฟนี้ครับ กราฟนี้แสดงปริมาณฮอร์โมนที่ร่างกายหลั่งออกมาในช่วงเวลาต่าง ๆ ของรอบเดือนครับ โดย
– เส้นสีเหลือง คือ Progesterone Hormone ซึ่งมีผลกระตุ้นให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากผิดปกติครับ จะเห็นได้ว่าฮอร์โมนนี้ถูกปล่อยออกมามากในช่วง 0-7 วันก่อนที่จะมีประจำเดือนครับ ช่วงนี้เองจะเป็นช่วงที่มักมีสิวขึ้นครับ
– เส้นสีชมพู คือ Estrogen Hormone ซึ่งมีผลกระตุ้นให้ผิวอุ้มน้ำได้ดี และยังช่วยให้ผิวชั้นในมีการสร้าง Collagen เพิ่มขึ้น ผิวจะมีความยืดหยุ่น เราจะเห็นได้ว่าฮอร์โมนนี้ถูกปล่อยออกมามากในช่วง 0-7 วันก่อนที่จะมีการตกไข่ ช่วงนี้เองจะเป็นช่วงที่ผิวสวย นุ่มเด้ง ชุ่มน้ำครับ
– สิวฮอร์โมนเห็นเป็นยังไง ?
– เป็นจุดบวม แดง ขนาดใหญ่ อักเสบ มีหนองอยู่ภายใน มักเกิดบริเวณจมูก รอบปาก และคาง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก
เกิดอะไรขึ้น ?
– เหมือนสิวอักเสบติดเชื้อทั่วไป นั่นคือ มีไขมันอุดตัน ภายในมีเชื้อสิว
แล้วทำไมถึงเกิด ?
– Progesterone กระตุ้นให้ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย
แล้วจะทำยังไงดี ?
– ห้ามกดเด็ดขาด !!!
– ล้างหน้าให้สะอาด
– ให้ความชุ่มชื้นทั้งน้ำ และไขมัน โดยเน้นให้น้ำมัน Inner Oil
– หากเป็นมากอาจมีการรักษาด้วย Hormone ชนิดเม็ด โดยการใช้ยาควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

สิวไม่มีหัว
สิวไม่มีหัว มีโอกาสเป็นไปได้หลายกรณีครับ
กรณีที่ 1คือ สิวอักเสบติดเชื้อปกติ รวมถึงสิวหัวช้าง ซึ่งเป็นสิวอุดตันชนิดหนึ่งครับ
กรณีนี้จะ “ไม่มี” จุดดำ ๆ ตรงกลาง และขนาดของสิวจะค่อนข้างคงที่ ไม่ขยายใหญ่ไปเรื่อย ๆ
เมื่อทิ้งไว้ 2-3 วัน จะเริ่มมีหัวสิวโผล่ขึ้นมา (รายละเอียด อ่านย้อนหลัง ตอนที่ 15 สิวอุดตัน)
https://www.facebook.com/amtskincare/posts/194863225492855
หากทิ้งไว้ 2-3 วันแล้วยังไม่มีหัวสิวโผล่ขึ้นมา เป็นไปได้ว่า สาเหตุของการอุดตันเกิดอยู่ต่อเนื่อง
จนทำให้ไขมันที่อุดตันอยู่ภายใน ไม่ดันตัวขึ้นมาซักที
เป็นไปได้ว่า การล้างเครื่องสำอางที่ทำอยู่อาจจะไม่เหมาะสม
หากเป็นนาน และเจ็บมาก มีความจำเป็นต้องพบแพทย์
ส่วนกรณีที่ 2 ซึ่งพบได้น้อยกว่า คือ Epidermoid Cyst
ซึ่งมักจะมีจุดสีดำตรงกลาง สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของการผลัดเซลล์ผิว
โดยผลัดเข้าภายใน ผสมกับไขมัน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำให้เกิดเป็น ก้อน ซึ่งจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะใหญ่เป็น เซนติเมตร มีกลิ่นเหม็น ควรรีบพบแพทย์เพื่อผ่าออก

สิวผด (Acne Aestivalis)
เห็นเป็นยังไง ?
– เห็นเป็นจุดแดง ๆ เล็ก ๆ ตรงกลางจุดอาจมีตุ่มน้ำใส ๆ โดยมักเกิดบริเวณที่โดนแดดบ่อยและมีเหงื่อออกมาก เช่นหน้าผาก
เกิดอะไรขึ้น ?
มีการอักแสบและอุดตันของต่อมเหงื่อ และอาจมีการติดเชื้อร่วมด้วย ถ้าจับด้วยมือสกปรกบ่อย ๆ
แล้วทำไมถึงเกิด ?
สาเหตุยังไม่แน่ชัด แต่มีความสัมพันธ์กับการโดนแดดจัด ความร้อน และเหงื่อ
และมีความสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์ ส่วนมากพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
แล้วจะทำยังไงดี ?
หายเองได้ใน 2-3 วัน ให้ดูแลโดยการรักษาความสะอาด แต่ไม่ให้ล้างหน้าแรง ๆ
เพราะการเสียดสีก็ยิ่งทำให้การอักเสบแย่ขึ้น ลดการโดนแดดจัด และใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นทั้งน้ำและไขมัน

สิวหน้ากาก (Maskne)
ปิดท้ายด้วยสิวหน้ากาก หรือ Maskne (อ่านว่า มาส์ก-เน่) เป็นคำใหม่ที่เกิดจากการเชื่อมคำระหว่าง Mask + Acne
ที่จริงแล้วสิวหน้ากากก็คือ สิวอุดตันอักเสบติดเชื้อ นั่นเอง ดังนั้น หากเกิดสิวขึ้นแล้วให้ดูแลเหมือน สิวอุดตันอักเสบติดเชื้อ
(รายละเอียด อ่านย้อนหลัง ตอนที่ 15 สิวอุดตัน)
https://www.facebook.com/amtskincare/posts/194863225492855
เพียงแต่ สิ่งที่เราควรรู้คือ “ทำไมใส่หน้ากากแล้วเกิดสิว”
สตอรี่มันเป็นแบบนี้ครับ
1.เวลาเราใส่หน้ากาก แล้วพูด หรือตอนที่เราขยับหน้ากากไปมา ผิวหน้าจะเสียดสีกับหน้ากากทีละน้อย ๆ
2.การเสียดสีนี้ ส่งผลให้ Skin Barrier ถูกทำลาย มีเศษเซลล์เกิดขึ้นจากการทำลายเป็นจำนวนมาก และเริ่มไปอุดตันทางเปิดของต่อมไขมัน พร้อมกันนี้เมื่อ Skin Barrier ถูกทำลาย ผิวจะเสียน้ำง่ายขึ้น ทำให้ผิวพยายามจะป้องกันการเสียน้ำโดยสร้างไขมัน และปล่อยออกมา
3.แต่ทางเปิดของต่อมไขมันมีเศษเซลล์อุดอยู่ จึงทำให้เกิดเป็นสิวอุดตัน
4. ซ้ำร้าย ภายใต้หน้ากาก มีปริมาณอากาศน้อย และสกปรก จึงทำให้เชื้อสิวซึ่งไม่ชอบอากาศเจริญเติบโตดี ส่งผลให้สิวอุดตัน นั้นมีการติดเชื้อ และอักเสบรุกลาม เป็นสิวเม็ดใหญ่ ๆ

จากสตอรี่นี้ เราสามารถป้องกัน สิวหน้ากาก ได้ 2 วิธีครับ คือ
1. ลดการเสียดสี – เลือกหน้ากากที่ใหญ่ มีช่องว่างระหว่างผิวกับหน้ากาก หรือเลือกหน้ากากที่ผิวสัมผัสนิ่ม
2.เพิ่มความแข็งแรงของ Skin Barrier – เลือกใช้สกินแคร์ที่ส่งเสริม Skin Barrier ให้แข็งแรง ป้องกันการเสียน้ำ ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวไม่ผลิตไขมันเกินจำเป็น นั่นเองครับ
Tag : สิว Beauty tips
#AMTSkincare #AMTHandbook #Skincare #AMTfamily #สกินแคร์ #YourSkinGuardian
ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่
https://linktr.ee/AMTSkincare