
เหตุผลมี 2 ข้อ
1. Lecithin ที่อยู่ในเซรั่มจะเข้าไปเตรียมผิวให้มีลักษณะ Tight but Permeable หมายความว่าผิวจะมีความแน่น สามารถทำหน้าที่เป็น Barrier กักเก็บน้ำและไขมันได้ดี แต่ในเวลาเดียวกันก็จะช่วย Boost ให้สกินแคร์ในลำดับถัด ๆ ไปซึมได้ดีขึ้น ดังนั้น เราควรทา AMT Brightening & Moisturizing Liposome Serum เป็นขั้นตอนแรก หลังล้างหน้าและเช็ดทำความสะอาดผิว (ถ้ามี) โดยไม่ต้องคำนึงถึงลำดับความข้นหนืดของผลิตภัณฑ์
2. สารสำคัญใน AMT Brightening & Moisturizing Liposome Serum ตัวหนึ่งซึ่งก็คือ กระเปาะ Liposome ที่บรรจุ Niacinamide เอาไว้ข้างใน กระเปาะไลโปโซมนี้จะแตกออกและปลดปล่อย Niacinamide ออกมาเมื่อสัมผัสกับไขมันและเหงื่อ (เกลือ) ดังนั้นการทา AMT Liposome Serum ในขณะที่ผิวหน้ามีไขมันและเหงื่อมาก หรือทาในขั้นตอนหลังจากทาสกินแคร์อื่น (ซึ่งอาจจะมีไขมัน, เกลือ) จะทำให้ไลโปโซมแตกออกและปลดปล่อย Niacinamide ออกมาที่ผิวชั้นบน ทั้ง ๆ ที่จริงเราอยากให้ไลโปโซมซึมเข้าไปยังผิวชั้นลึก แล้วค่อยปลดปล่อย Niacinamide ออกมา เพื่อออกฤทธิ์ต่อต้นตอของฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าครับ
หลายคนอาจสงสัยว่าหลังทา AMT Liposome Serum ควรเว้นกี่นาทีก่อนทาสกินแคร์ในขั้นถัดไป คำตอบคือ ไลโปโซมซึมเร็วมากครับ ขณะทาเซรั่ม แล้วรู้สึกว่ามันเริ่มหนึบ ๆ ระหว่างผิวมือหรือนิ้วกับผิวหน้า (หรือในวงการผมเรียกว่า มัน Finish แล้ว) ก็ทาสกินแคร์ในขั้นตอนถัดไปได้เลยครับ
Tag : Beauty tips
#AMTSkincare #AMTfamily #YourSkinGuardian #DidYouKnow #Skincare #สกินแคร์ #ผิวสุขภาพดี.
ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับเราได้ที่