
The Skincare Handbook by AMT Skincare
คอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับผิว และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับสกินแคร์
ตอนที่ 11 Emulsion คืออะไร ?

Emulsion (อิมัลชัน) เป็นคำที่ผมคิดว่าหลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคย แต่ถ้าบอกว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือ ครีม อาจจะคุ้นหูมากกว่าครับ
อิมัลชัน คือ “น้ำ” กับ “น้ำมัน” ที่ผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น นมวัว(มีน้ำและไขมันวัว) , มายองเนส (มีน้ำส้มสายชูกับน้ำมันพืช) รวมถึงสกินแคร์ที่มีเนื้อสีขาวทึบทุกชนิดครับ

Emulsion แบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ตามโครงสร้างครับ
1. Oil in Water Emulsion (O/W Emulsion) เป็นอิมัลชัน ชนิดที่เมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็น “น้ำมัน”เป็นหยดเล็ก ๆ กระจายอยู่ในน้ำ
2. ในทางตรงกันข้าม Water in Oil Emulsion (W/O Emulsion) เป็นอิมัลชัน ชนิดที่เมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็น “น้ำ” เป็นหยดเล็ก ๆ กระจายอยู่ในน้ำมัน

แล้วเราจะรู้ไปทำไม ?
คำตอบก็คือ เอาจริง ๆ ไม่ต้องรู้ก็ได้ครับ อาจจะมีประโยชน์นิด ๆ ตอนคุยกับเพื่อนเวลาไปลองครีมด้วยกันว่า “นี่เธอ ครีมนี้อ่ะ O/W Emulsion นี่นา ” ให้เพื่อนหมั่นไส้เล่นได้ครับ
Emulsion แต่ละชนิดมีจุดเด่นต่างกันดังนี้ครับ
1. Oil in Water Emulsion เป็นอิมัลชันที่พบมากในสกินแคร์ส่วนใหญ่ครับ เนื้อสัมผัสมีตั้งแต่เหลวเป็นน้ำถึงข้นมากเป็นครีม วิธีสังเกตง่าย ๆ คือเวลาเกลี่ยลงบนผิว จะมีความรู้สึกเย็น ๆ เนื่องจากน้ำที่เป็นองค์ประกอบในอิมัลชันสัมผัสกับผิวโดยตรง และเมื่อน้ำระเหยก็จะดูดความร้อนจากผิวไป ทำให้รู้สึกเย็น (เย็นแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพสิ่งแวดล้อมด้วยครับ ถ้าอยู่ในห้องแอร์ เวลาน้ำระเหยก็จะรู้สึกเย็นมาก เป็นต้นครับ) หรืออีกวิธีนึงที่ทดสอบได้ง่าย ๆ ก็คือ ลองหยดอิมัลชันลงในแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ ถ้าอิมัลชันนั้นละลายไปกับน้ำก็แสดงว่าเป็นแบบ Oil in Water Emulsion นั่นเองครับ อิมัลชันชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่ดีในการทา แต่ส่วนมากไม่สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ครับ เหมาะกับการใช้เป็นสกินแคร์เพื่อบำรุงผิวครับ
2. Water in Oil Emulsion เป็นอิมัลชันที่พบมากในรองพื้น (กรณีนี้อาจจะไม่ใช่สีขาวทึบเพราะมีการใส่สีลงไปครับ) ครีมกันแดดแบบกันน้ำ และสกินแคร์บางชนิดครับ (ที่หลาย ๆ ท่านน่าจะรู้จักก็คือ ครีมนีเวียกระปุกสีน้ำเงิน) เวลาเกลี่ยลงบนผิว จะไม่รู้สึกเย็น ๆ เพราะส่วนที่สัมผัสกับผิวโดยตรงคือน้ำมัน ไม่ใช่น้ำนั่นเองครับ และถ้าหากลองหยดอิมัลชันลงในแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ อิมัลชันนั้นจะไม่ละลายไปกับน้ำครับ อาจจะลอยหรือจมก็ได้ครับ อิมัลชันชนิดนี้ทนน้ำทนเหงื่อได้ดี แต่ความรู้สึกในการทามักจะเหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับเป็นกันแดด หรือรองพื้น ที่ต้องเจอเหงื่อเยอะ ๆ หรือกรณีถ้าใช้เป็นสกินแคร์สามารถใช้เพื่อปกคลุมผิวที่แห้งแตกอย่างมากได้ครับ

หากพูดถึงเฉพาะ Oil in Water Emulsion เราจะสามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็น 3 ชนิดคร่าว ๆ ตามปริมาณน้ำมันที่กระจายอยู่ดังนี้ครับ
1. น้ำมันน้อย – อิมัลชันจะเหลวเป็นน้ำ ๆ มีสีขาวโปร่งแสงหรือทึบแสงก็ได้ ยิ่งน้ำมันมากยิ่งทึบครับ (แต่ไม่เสมอไป) เราจะคุ้นหูกันในชื่อ “น้ำตบชนิดน้ำนม” นั่นเองครับ
2.น้ำมันปานกลาง – อิมัลชันชนิดนี้มักมีความหนืดน้อยถึงปานกลางไม่เหลวเป็นน้ำ เราจะคุ้นหูกันในชื่อ “มอยสเจอร์ไรเซอร์” ครับ ซึ่งที่จริงคำว่า มอยสเจอร์ไรเซอร์ เป็นชื่อที่บอกหน้าที่มากกว่าครับ ส่วนคำว่า อิมัลชัน เป็นชื่อที่บอกสภาพของสกินแคร์นั้นว่าเป็น น้ำผสมน้ำมัน
3. น้ำมันมาก – อิมัลชันมักจะมีความหนืดสูง ทำให้เราจะคุ้นหูกันในชื่อ “ครีม” ครับ ที่จริงชื่อเต็ม ๆ ของครีมคือ “อิมัลชันเนื้อครีม” นั่นเองครับ แต่เพื่อความสะดวกจึงมักเรียกกันว่า “ครีม” อย่างเดียวครับ (อย่าเพิ่งงงนะครับ)

อิมัลชัน เป็น สกินแคร์ไอเท็มที่ทุกคน “ควรใช้” ครับ เพราะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ ผิวของคนเราทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวบอบบาง ผิวเด็ก ผิวผู้สูงอายุ ผิวผู้ชาย ผิวผู้หญิง หรือจะผิวอะไรก็แล้วแต่ ล้วนต้องการน้ำมันทั้งนั้นครับ
นอกจากนี้ปริมาณ Oil ในอิมัลชันยังไม่สำคัญเท่าอัตราส่วน Inner Oil : Surface Oil ที่อยู่ในอิมัลชันนั้น ๆ ครับ
ผิวแห้ง : ควรเลือกใช้อิมัลชันสูตรที่มี Surface Oil สูง เพื่อสร้าง Layer ของน้ำมันไว้ที่ผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำ
ในทางกลับกัน
ผิวมัน : ควรเลือกใช้อิมัลชันสูตรที่มี Surface Oil ต่ำ เพราะผิวสร้าง Surface Oil ออกมามากอยู่แล้ว เดี๋ยวจะยิ่งมันกันไปใหญ่

หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่า
แล้วผิวผสมอย่างชั้นล่ะจะทำยังไงดี ? ซื้อ 2 สูตรมาใช้ร่วมกันเหรอ ?
ในทางทฤษฎีอาจจะใช่ครับ แต่ในทางปฏิบัติไม่เวิร์กเลยครับ เปลืองสตางค์ด้วย อีกทั้งยังวุ่นวาย ทาขวดนี้ทีขวดนั้นที เดี๋ยวทาผิดทาถูกอีก
วิธีการที่ดีกว่านั้นผมแนะนำให้ “เลือกอิมัลชันสูตรที่มี Surface oil ต่ำ” เหมือนกับคนผิวมัน
โดยบริเวณ T Zone ที่มีความมันที่ผิวมาก ให้ทาปกติ
ส่วนบริเวณ U Zone ที่มีความแห้ง ให้ทาปริมาณมากหน่อย หรือทา 2 ชั้นทับกันครับ
AMT Rejuvenating & Brightening Light Emulsion
และ AMT Rejuvenating & Brightening Rich Emulsion
อิมัลชันที่จะช่วยให้ผิวของคุณได้รับน้ำมันที่เหมาะสมกับผิวคุณจริง ๆ
สิ่งหนึ่งที่เป็นความเข้าใจผิดที่พบมากคือ
“ชั้นผิวมันอ่ะ ไม่อยากทาอะไรที่มีน้ำมัน”
อิมัลชันทั้ง 2 สูตรนี้จะบอกคุณว่าในสูตรมีอัตราส่วน Inner Oil : Surface Oil ในปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
#อย่ากลัวน้ำมันมากเกินไป
Tag : ปัญหาผิวแห้ง ปัญหาผิวมัน
#AMTSkincare #AMTfamily #YourSkinGuardian #Handbook #Skincare #สกินแคร์
ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่

The Skincare Handbook by AMT Skincare
คอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับผิว และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับสกินแคร์
ตอนที่ 11 Emulsion คืออะไร ?

Emulsion (อิมัลชัน) เป็นคำที่ผมคิดว่าหลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคย แต่ถ้าบอกว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือ ครีม อาจจะคุ้นหูมากกว่าครับ
อิมัลชัน คือ “น้ำ” กับ “น้ำมัน” ที่ผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น นมวัว(มีน้ำและไขมันวัว) , มายองเนส (มีน้ำส้มสายชูกับน้ำมันพืช) รวมถึงสกินแคร์ที่มีเนื้อสีขาวทึบทุกชนิดครับ

Emulsion แบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ตามโครงสร้างครับ
1. Oil in Water Emulsion (O/W Emulsion) เป็นอิมัลชัน ชนิดที่เมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็น “น้ำมัน”เป็นหยดเล็ก ๆ กระจายอยู่ในน้ำ
2. ในทางตรงกันข้าม Water in Oil Emulsion (W/O Emulsion) เป็นอิมัลชัน ชนิดที่เมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็น “น้ำ” เป็นหยดเล็ก ๆ กระจายอยู่ในน้ำมัน

แล้วเราจะรู้ไปทำไม ?
คำตอบก็คือ เอาจริง ๆ ไม่ต้องรู้ก็ได้ครับ อาจจะมีประโยชน์นิด ๆ ตอนคุยกับเพื่อนเวลาไปลองครีมด้วยกันว่า “นี่เธอ ครีมนี้อ่ะ O/W Emulsion นี่นา ” ให้เพื่อนหมั่นไส้เล่นได้ครับ
Emulsion แต่ละชนิดมีจุดเด่นต่างกันดังนี้ครับ
1. Oil in Water Emulsion เป็นอิมัลชันที่พบมากในสกินแคร์ส่วนใหญ่ครับ เนื้อสัมผัสมีตั้งแต่เหลวเป็นน้ำถึงข้นมากเป็นครีม วิธีสังเกตง่าย ๆ คือเวลาเกลี่ยลงบนผิว จะมีความรู้สึกเย็น ๆ เนื่องจากน้ำที่เป็นองค์ประกอบในอิมัลชันสัมผัสกับผิวโดยตรง และเมื่อน้ำระเหยก็จะดูดความร้อนจากผิวไป ทำให้รู้สึกเย็น (เย็นแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพสิ่งแวดล้อมด้วยครับ ถ้าอยู่ในห้องแอร์ เวลาน้ำระเหยก็จะรู้สึกเย็นมาก เป็นต้นครับ) หรืออีกวิธีนึงที่ทดสอบได้ง่าย ๆ ก็คือ ลองหยดอิมัลชันลงในแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ ถ้าอิมัลชันนั้นละลายไปกับน้ำก็แสดงว่าเป็นแบบ Oil in Water Emulsion นั่นเองครับ อิมัลชันชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่ดีในการทา แต่ส่วนมากไม่สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ครับ เหมาะกับการใช้เป็นสกินแคร์เพื่อบำรุงผิวครับ
2. Water in Oil Emulsion เป็นอิมัลชันที่พบมากในรองพื้น (กรณีนี้อาจจะไม่ใช่สีขาวทึบเพราะมีการใส่สีลงไปครับ) ครีมกันแดดแบบกันน้ำ และสกินแคร์บางชนิดครับ (ที่หลาย ๆ ท่านน่าจะรู้จักก็คือ ครีมนีเวียกระปุกสีน้ำเงิน) เวลาเกลี่ยลงบนผิว จะไม่รู้สึกเย็น ๆ เพราะส่วนที่สัมผัสกับผิวโดยตรงคือน้ำมัน ไม่ใช่น้ำนั่นเองครับ และถ้าหากลองหยดอิมัลชันลงในแก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ อิมัลชันนั้นจะไม่ละลายไปกับน้ำครับ อาจจะลอยหรือจมก็ได้ครับ อิมัลชันชนิดนี้ทนน้ำทนเหงื่อได้ดี แต่ความรู้สึกในการทามักจะเหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับเป็นกันแดด หรือรองพื้น ที่ต้องเจอเหงื่อเยอะ ๆ หรือกรณีถ้าใช้เป็นสกินแคร์สามารถใช้เพื่อปกคลุมผิวที่แห้งแตกอย่างมากได้ครับ

หากพูดถึงเฉพาะ Oil in Water Emulsion เราจะสามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็น 3 ชนิดคร่าว ๆ ตามปริมาณน้ำมันที่กระจายอยู่ดังนี้ครับ
1. น้ำมันน้อย – อิมัลชันจะเหลวเป็นน้ำ ๆ มีสีขาวโปร่งแสงหรือทึบแสงก็ได้ ยิ่งน้ำมันมากยิ่งทึบครับ (แต่ไม่เสมอไป) เราจะคุ้นหูกันในชื่อ “น้ำตบชนิดน้ำนม” นั่นเองครับ
2.น้ำมันปานกลาง – อิมัลชันชนิดนี้มักมีความหนืดน้อยถึงปานกลางไม่เหลวเป็นน้ำ เราจะคุ้นหูกันในชื่อ “มอยสเจอร์ไรเซอร์” ครับ ซึ่งที่จริงคำว่า มอยสเจอร์ไรเซอร์ เป็นชื่อที่บอกหน้าที่มากกว่าครับ ส่วนคำว่า อิมัลชัน เป็นชื่อที่บอกสภาพของสกินแคร์นั้นว่าเป็น น้ำผสมน้ำมัน
3. น้ำมันมาก – อิมัลชันมักจะมีความหนืดสูง ทำให้เราจะคุ้นหูกันในชื่อ “ครีม” ครับ ที่จริงชื่อเต็ม ๆ ของครีมคือ “อิมัลชันเนื้อครีม” นั่นเองครับ แต่เพื่อความสะดวกจึงมักเรียกกันว่า “ครีม” อย่างเดียวครับ (อย่าเพิ่งงงนะครับ)

อิมัลชัน เป็น สกินแคร์ไอเท็มที่ทุกคน “ควรใช้” ครับ เพราะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ ผิวของคนเราทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ผิวบอบบาง ผิวเด็ก ผิวผู้สูงอายุ ผิวผู้ชาย ผิวผู้หญิง หรือจะผิวอะไรก็แล้วแต่ ล้วนต้องการน้ำมันทั้งนั้นครับ
นอกจากนี้ปริมาณ Oil ในอิมัลชันยังไม่สำคัญเท่าอัตราส่วน Inner Oil : Surface Oil ที่อยู่ในอิมัลชันนั้น ๆ ครับ
ผิวแห้ง : ควรเลือกใช้อิมัลชันสูตรที่มี Surface Oil สูง เพื่อสร้าง Layer ของน้ำมันไว้ที่ผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำ
ในทางกลับกัน
ผิวมัน : ควรเลือกใช้อิมัลชันสูตรที่มี Surface Oil ต่ำ เพราะผิวสร้าง Surface Oil ออกมามากอยู่แล้ว เดี๋ยวจะยิ่งมันกันไปให

หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่า
แล้วผิวผสมอย่างชั้นล่ะจะทำยังไงดี ? ซื้อ 2 สูตรมาใช้ร่วมกันเหรอ ?
ในทางทฤษฎีอาจจะใช่ครับ แต่ในทางปฏิบัติไม่เวิร์กเลยครับ เปลืองสตางค์ด้วย อีกทั้งยังวุ่นวาย ทาขวดนี้ทีขวดนั้นที เดี๋ยวทาผิดทาถูกอีก
วิธีการที่ดีกว่านั้นผมแนะนำให้ “เลือกอิมัลชันสูตรที่มี Surface oil ต่ำ” เหมือนกับคนผิวมัน
โดยบริเวณ T Zone ที่มีความมันที่ผิวมาก ให้ทาปกติ
ส่วนบริเวณ U Zone ที่มีความแห้ง ให้ทาปริมาณมากหน่อย หรือทา 2 ชั้นทับกันครับ
AMT Rejuvenating & Brightening Light Emulsion
และ AMT Rejuvenating & Brightening Rich Emulsion
อิมัลชันที่จะช่วยให้ผิวของคุณได้รับน้ำมันที่เหมาะสมกับผิวคุณจริง ๆ
สิ่งหนึ่งที่เป็นความเข้าใจผิดที่พบมากคือ
“ชั้นผิวมันอ่ะ ไม่อยากทาอะไรที่มีน้ำมัน”
อิมัลชันทั้ง 2 สูตรนี้จะบอกคุณว่าในสูตรมีอัตราส่วน Inner Oil : Surface Oil ในปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
#อย่ากลัวน้ำมันมากเกินไป
Tag : ปัญหาผิวแห้ง ปัญหาผิวมัน
#AMTSkincare #AMTfamily #YourSkinGuardian #Handbook #Skincare #สกินแคร์
ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่