link slot Pragmatic Play resmi dan terpercaya 2024

Spaceman Slot

permainan spaceman slot Resmi di Indonesia

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

Handbook 9 วิธีการเก็บรักษาสกินแคร์ที่ถูกต้อง

24/03/2022

แชร์บทความนี้

The Skincare Handbook by AMT Skincare

คอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับผิว และวิทยาศาตร์ที่เกี่ยวกับสกินแคร์

ตอนที่ 9 วิธีการเก็บรักษาสกินแคร์ที่ถูกต้อง

สรุปสั้น ๆ ใน 3 ข้อ
1. ถ้าสูตรตำรับออกแบบมาดีพอ อยากเก็บแบบไหนก็เก็บเถอะครับ ไม่ค่อยเสียหรอกครับ แต่ดีที่สุดคือ อุณหภูมิประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 40-60 %
2. บางทีอาจจะเก็บในที่ที่ร้อนไปบ้าง ชื้นไปบ้าง เอาจริง ๆ ไม่ซีเรียสครับ ยกเว้นอย่างเดียวที่ห้ามเด็ดขาดคือ อุณหภูมิเกิน 50 องศาเซลเซียส เช่น ในรถที่จอดกลางแจ้ง
3. ข้อควรระวังอีกอย่างคือ ถ้าไม่จำเป็น อย่าเปิดปิดฝาบ่อย หรือแบ่งบรรจุใส่ภาชนะอื่น เพราะเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนเชื้อ และบูดเน่าได้ครับ

สกินแคร์ควรเก็บรักษาอย่างไร เวลาท่านรับสินค้าจากเราไปแล้ว ท่านจะได้เก็บรักษาได้อย่างถูกวิธี เพื่อประสิทธิภาพของการบำรุงผิวพรรณอย่างสูงสุด คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ

ถ้าเราพูดถึงความเสียหายที่จะเกิดกับสกินแคร์นั้น เราจะสามารถแบ่งความเสียหายออกได้เป็น 4 ประเภท โดยเรียงจากความเสียหายที่เราไม่อยากให้เกิดมากที่สุดไปน้อยที่สุด ดังนี้ครับ
1. บูดเน่า
2. สารสำคัญเสื่อมสภาพ
3. ขุ่นหรือมีของแข็งตกตะกอนออกมา
4. น้ำกับน้ำมันแยกชั้น

บูดเน่า

เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่เราไม่อยากให้เกิดครับ เพราะหากเกิดขึ้นแล้ว “ต้องทิ้งอย่างเดียว” ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยครับ อาการไม่ต้องบอกว่าเป็นอย่างไร ถ้าสกินแคร์ที่ท่านใช้อยู่เกิดบูดเน่าแล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกได้แน่นอนครับ ยิ่งถ้าใช่อยู่ทุกวันยิ่งรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายครับ มันจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาจเป็นกลิ่นเหม็นเน่าหรือ เหม็นเปรี้ยว หรือเหม็นอับ ๆเหมือนผ้าชื้น ๆ ก็ได้ครับ ยิ่งถ้าไม่มีน้ำหอมอยู่ในสูตรยิ่งชัดเลยครับ แต่ถึงมีน้ำหอม ความเหม็นจากการบูดเน่ามันจะเด่นขึ้นมาครับ ซึ่งผมเชื่อว่าทุก ๆ คนจะรู้ได้แน่นอนครับ

สาเหตุของการบูดเน่าก็คือ เชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนเข้าไปในสกินแคร์มากเกินกว่าที่สารกันบูดในสกินแคร์จะกำจัดได้ครับ ทำให้เชื้อแบ่งตัวเจริญเติบโตโดยอาศัย น้ำ และสารอาหารบางอย่างในสกินแคร์เป็นแหล่งพลังงาน และพอเชื้อเหล่านั้นขับถ่ายของเสียออกมา ก็จะสังเกตได้จากกลิ่นที่เปลี่ยนไปนั่นเองครับ

วิธีการป้องกัน
– อย่าเปิดฝาหรือจุกโดยไม่จำเป็น กรณีขวดปั๊มพ์ หรือ ขวดสเปรย์ หรืออะไรก็ตามที่เราไม่จำเป็นต้องเปิดฝาก็สามารถใช้ได้ ก็ควรเลี่ยงไม่ไปเปิดฝาครับ เพราะ การเปิดฝา=การเพิ่มโอกาสให้เชื้อที่ล่องลอยอยู่ในอากาศตกลงไปในภาชนะครับ
– ส่วนกระปุก ขวด หลอด ที่เลี่ยงไม่ได้ ก็ควรเปิดปิดให้น้อยที่สุดครับ ผมเข้าใจว่าบางทีกลิ่นมันหอมก็อาจจะอยากเปิดมาดมบ้าง เอาเป็นว่าน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ละกันครับ
– ในบางครั้งเราอาจจะควัก หรือบีบสกินแคร์ออกมามากเกินจำเป็น สิ่งที่ไม่ควรกระทำ ก็คือ การใส่กลับเข้าไปครับ เพราะมือเรามีเชื้อจุลินทรีย์เยอะมากครับ การใส่สกินแคร์ที่สัมผัสกับมือแล้วกลับเข้าไป ก็เหมือนกับใส่เชื้อเข้าไปนั่นเองครับ
– อย่า!!!ใส่น้ำเข้าไปเด็ดขาดครับ พบมากในสบู่เหลว แชมพู ครับ การใส่น้ำเข้าไปมีความเสี่ยงถึงสองข้อคือ 1) ใส่น้ำเท่ากับใส่เชื้อลงไป 2) น้ำไปเจือจางความเข้มข้นของสารกันบูดเดิมทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– อย่า!!!แบ่งบรรจุโดยไม่จำเป็น เนื่องจากภาชนะที่นำมาใส่นั้นส่วนใหญ่ไม่สะอาดครับ แต่หากจำเป็นจริง ๆ ผมแนะนำให้เช็ดหรือกลั้วภาชนะด้วย 70% ethanol แล้วผึ่งให้แห้งก่อนแล้วใช้เข็มฉีดยาแบบที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วเป็นเครื่องมือในการแบ่งบรรจุจะดีที่สุดครับ

สารสำคัญเสื่อมสภาพ

สิ่งนี้ก็ไม่อยากให้เกิดเหมือนกันครับ แต่ถ้าถามผมว่า หากสารสำคัญเสื่อมสภาพแล้วต้องทิ้งเลยมั้ย คำตอบคือ ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ยกตัวอย่างเช่น เซรั่มวิตามินซี สมมติว่าวิตามินซีเสื่อมสลายไป สังเกตได้จากสีที่เหลืองเข้มขึ้น แต่ก็อาจจะมีบางส่วนที่ยังคงสภาพดีอยู่ หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในสูตรตำรับเช่น สารให้ความชุ่มชื้น สารสกัดตัวอื่น ๆ ก็ยังดีอยู่ครับ ถ้าอยากจะใช้ต่อไปก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ

สาเหตุของการที่สารสำคัญเสื่อมสภาพก็คือ ความร้อน,แสงแดด, ออกซิเจน ไปทำลายโครงสร้างทางเคมีของสารนั้น ๆ ทำให้หมดฤทธิ์ไป โดยสารที่เสื่อมสภาพนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มีพิษภัยอะไรต่อร่างกาย ยกเว้นในบางกรณีซึ่งพบได้น้อยมาก สารที่เสื่อมสภาพนั้นอาจมีผลเสียต่อร่างกายได้ครับ

วิธีการป้องกัน
– ในความเป็นจริงแล้วความร้อน อากาศ แสงแดด เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากมากถึงมากที่สุดครับ อาจจะจริงที่การใช้ขวดทึบแสง หรือกลไกบางอย่างของปั๊มพ์ หรือวัสดุบางชนิดสามารถข่วยชะลอการเสื่อมสภาพของสารสำคัญได้ แต่ก็เพียงแค่การชะลอเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดการเสื่อมสภาพได้อย่าง100%
– ดังนั้นวิธีการป้องกันการเสื่อมสภาพที่ดีที่สุดก็คือ หลังจากเปิดใช้แล้วควร “รีบใช้ให้หมด” ครับ โดยระยะเวลาที่เหมาะสมในการใช้ให้หมดหลังเปิดใช้แล้วคือ ประมาณ6เดือน ครับ 

ขุ่นหรือมีของแข็งตกตะกอนออกมา

ของแข็งตกตะกอนเป็นความเสียหายที่พบมากในครีมกันแดดที่ถูกเก็บในที่เย็นจัด ๆ เช่น ประเทศเมืองหนาว บางคนเอาครีมกันแดดไปทาบนลานสกี เพื่อป้องกันผิวไหม้แดดจากแสงยูวีที่สะท้อนจากหิมะเป็นต้น เวลาบีบครีมออกมาทาลงบนผิว ของแข็งเหล่านั้นจะขูดผิวรู้สึกได้ทันทีว่าผิดปกติครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับปริมาณตะกอนที่ตกออกมาด้วยครับ ถ้าน้อย ๆบางทีก็ไม่รู้สึกครับ ส่วนในเมืองไทยเรานั้นไม่มีบานสกี ยกเว้นดรีมเวิร์ลมีลานสกี แต่ก็ไม่มีแดด ดังนั้นคงไม่เกิดปัญหานี้แน่นอนครับ ยกเว้นว่าคุณจะเอาครีมกันแดดไปแช่ตู้เย็นครับ ครีมกันแดดเป็นสิ่งเดียวที่ผมขอบอกว่าอย่าเอาไปแช่ตู้เย็นเลยครับ

ส่วนสกินแคร์อื่น ๆ หลายคนอาจจะเก็บแช่ในตู้เย็น ผมว่าไม่เป็นไรหรอกครับ เอาจริง ๆ ความเย็นช่วยได้หลายอย่าง ชะลอการเสื่อมสลายของสาร ชะลอการระเหยของน้ำ ชะลอการแยกชั้นของน้ำมัน

หลายท่านอาจจะเคยอ่านบทความประมาณว่า ห้ามเก็บสกินแคร์ในตู้เย็น ผมมองว่าบทความเหล่านั้นอาจจะกังวลว่าการเอาสกินแคร์เข้า ๆ ออกตู้เย็นจะทำให้ครีมเสื่อมสภาพ แต่ผมกลับมีความเห็นต่างครับ เพราะตู้เย็นอุณหภูมิประมาณ 5-8 องศา นอกตู้เย็น 25-35 องศา ในช่วงอุณภูมิเหวี่ยงประมาณนี้แทบมีผลต่อการเสื่อมสภาพเลยครับ แต่ถ้ากลับกัน เอาไปใส่ช่องฟรีซ หรือ ช่องเนื้อสัตว์ที่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้ อันนี้มีผลเสียแน่นอนครับ เพราะน้ำในสกินแคร์จะแข็งเป็นน้ำแข็ง บางส่วนแข็งเกาะอยู่ที่ฝาที่อาจจะมีเชื้อโรคอยู่ และเวลาละลายออกมาก็จะทำลายโครงสูตรของสกินแคร์ อีกทั้งยังละลายเชื้อโรคหยดกลับลงมาในสกินแคร์ อีกด้วยครับ

ดังนั้นถ้าท่านชอบความเย็นเวลาทา การแค่เก็บสกินแคร์ในตู้เย็น หยิบออกมาทา วางไว้บนโต๊ะ ลืมเก็บเข้าตู้เย็น พรุ่งนี้เช้าตื่นมาค่อยเก็บ เอาเข้าเอาออกแบบนี้ผมว่าไม่ซีเรียสมากหรอกครับ ก็ทาแล้วเย็น ๆ มันฟินดีนี่ครับ

อีกกลุ่มที่พบบ่อยคือกลุ่มน้ำมันครับ ไม่ว่าจะเป็น oil serum, oil cleanser, oil shampoo, massage oil ก็ตาม ความเย็นจะทำให้น้ำมันบางชนิดขุ่นได้ครับ สาเหตุก็เนื่องมาจากไขมันอิ่มตัวในน้ำมันนั้น ๆ กลายเป็นของแข็งนั่นเองครับ วิธีแก้ไข ก็แค่เอามาเก็บไว้ในที่อุ่นหน่อย ถ้ากลับมาใสเหมือนเดิมก็ใช้ต่อได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ

น้ำกับน้ำมันแยกชั้นกัน

ความเสียหายนี้ถ้าเป็นไม่มากจะสังเกตได้ยากครับ เพราะน้ำมันที่แยกชั้นออกมามักมีปริมาณน้อย ยกเว้นสูตรตำรับถูกออกแบบมาไม่ดี หรือถูกแรงบีบทำให้โครงสร้างที่หุ้มไขมันเอาไว้นั้นเสียหายไขมันจึงแยกตัวออกมา หรือสกินแคร์ถูกเก็บไว้ในที่ร้อนจัดเช่น ในรถที่จอดกลางแจ้ง หรือบริเวณใกล้หน้าต่างทิศตะวันตก


บางทีเปิดฝากระปุกครีมออกมา น้ำมันลอยเยิ้มเลยครับ ซึ่งถ้าถามผมว่า ถ้าเจอแบบนี้ต้องทิ้งเลยมั้ย คำตอบก็คือ ถ้ามันแพงผมจะไม่ทิ้งครับ ผมจะหาช้อนเล็ก ๆ เช็ดฆ่าเชื้อด้วย Ethanol มากวนน้ำมันที่ลอยเยิ้มนั้นลงไปให้เข้ากัน แล้วรีบใช้ต่อจนหมดกระปุกครับ เพราะในความเป็นจริงแล้วน้ำกับน้ำมันตอนก่อนผลิตออกมาเป็นครีม มันก็แยกชั้นแบบนี้แหละครับ ผู้ผลิตจะกวนน้ำกับน้ำมันให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันด้วยเครื่องมือที่มีแรงกวนสูง ดังนั้น ถ้าหากเราเจอมันแยกชั้นอีก เราก็กวนใหม่ก็แค่นั้นเองครับ หลายคนอาจจะเถียงอยู่ในใจว่า แล้วมันจะเข้าเป็นเนื้อเดียวกันเหรอ คำตอบคือ ไม่มีทางครับ แต่ก็ดีกว่าทิ้ง (เพราะมันแพง) หรือใช้ทั้ง ๆ ที่น้ำมันเยิ้มแบบนั้นไม่ใช่เหรอครับเหรอครับ

Tag : Beauty tips

#AMTSkincare #AMTfamily #YourSkinGuardian #Handbook #Skincare #สกินแคร์

ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่

https://linktr.ee/AMTSkincare

The Skincare Handbook by AMT Skincare

คอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับผิว และวิทยาศาตร์ที่เกี่ยวกับสกินแคร์

ตอนที่ 9 วิธีการเก็บรักษาสกินแคร์ที่ถูกต้อง

สรุปสั้นๆใน 3 ข้อ
1. ถ้าสูตรตำรับออกแบบมาดีพอ อยากเก็บแบบไหนก็เก็บเถอะครับ ไม่ค่อยเสียหรอกครับ แต่ดีที่สุดคือ อุณหภูมิประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 40-60 %
2. บางทีอาจจะเก็บในที่ที่ร้อนไปบ้าง ชื้นไปบ้าง เอาจริงๆไม่ซีเรียสครับ ยกเว้นอย่างเดียวที่ห้ามเด็ดขาดคือ อุณหภูมิเกิน 50 องศาเซลเซียส เช่น ในรถที่จอดกลางแจ้ง
3. ข้อควรระวังอีกอย่างคือ ถ้าไม่จำเป็น อย่าเปิดปิดฝาบ่อย หรือแบ่งบรรจุใส่ภาชนะอื่น เพราะเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนเชื้อ และบูดเน่าได้ครับ

สกินแคร์ควรเก็บรักษาอย่างไร เวลาท่านรับสินค้าจากเราไปแล้ว ท่านจะได้เก็บรักษาได้อย่างถูกวิธี เพื่อประสิทธิภาพของการบำรุงผิวพรรณอย่างสูงสุด คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ครับ

ถ้าเราพูดถึงความเสียหายที่จะเกิดกับสกินแคร์นั้น เราจะสามารถแบ่งความเสียหายออกได้เป็น 4 ประเภท โดยเรียงจากความเสียหายที่เราไม่อยากให้เกิดมากที่สุดไปน้อยที่สุด ดังนี้ครับ
1. บูดเน่า
2. สารสำคัญเสื่อมสภาพ
3. ขุ่นหรือมีของแข็งตกตะกอนออกมา
4. น้ำกับน้ำมันแยกชั้น

บูดเน่า

เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่เราไม่อยากให้เกิดครับ เพราะหากเกิดขึ้นแล้ว “ต้องทิ้งอย่างเดียว” ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยครับ อาการไม่ต้องบอกว่าเป็นอย่างไร ถ้าสกินแคร์ที่ท่านใช้อยู่เกิดบูดเน่าแล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกได้แน่นอนครับ ยิ่งถ้าใช่อยู่ทุกวันยิ่งรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายครับ มันจะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาจเป็นกลิ่นเหม็นเน่าหรือ เหม็นเปรี้ยว หรือเหม็นอับๆเหมือนผ้าชื้นๆ ก็ได้ครับ ยิ่งถ้าไม่มีน้ำหอมอยู่ในสูตรยิ่งชัดเลยครับ แต่ถึงมีน้ำหอม ความเหม็นจากการบูดเน่ามันจะเด่นขึ้นมาครับ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกๆคนจะรู้ได้แน่นอนครับ

สาเหตุของการบูดเน่าก็คือ เชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนเข้าไปในสกินแคร์มากเกินกว่าที่สารกันบูดในสกินแคร์จะกำจัดได้ครับ ทำให้เชื้อแบ่งตัวเจริญเติบโตโดยอาศัย น้ำ และสารอาหารบางอย่างในสกินแคร์เป็นแหล่งพลังงาน และพอเชื้อเหล่านั้นขับถ่ายของเสียออกมา ก็จะสังเกตได้จากกลิ่นที่เปลี่ยนไปนั่นเองครับ

วิธีการป้องกัน
– อย่าเปิดฝาหรือจุกโดยไม่จำเป็น กรณีขวดปั๊มพ์ หรือ ขวดสเปรย์ หรืออะไรก็ตามที่เราไม่จำเป็นต้องเปิดฝาก็สามารถใช้ได้ ก็ควรเลี่ยงไม่ไปเปิดฝาครับ เพราะ การเปิดฝา=การเพิ่มโอกาสให้เชื้อที่ล่องลอยอยู่ในอากาศตกลงไปในภาชนะครับ
– ส่วนกระปุก ขวด หลอด ที่เลี่ยงไม่ได้ ก็ควรเปิดปิดให้น้อยที่สุดครับ ผมเข้าใจว่าบางทีกลิ่นมันหอมก็อาจจะอยากเปิดมาดมบ้าง เอาเป็นว่าน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ละกันครับ
– ในบางครั้งเราอาจจะควัก หรือบีบสกินแคร์ออกมามากเกินจำเป็น สิ่งที่ไม่ควรกระทำ ก็คือ การใส่กลับเข้าไปครับ เพราะมือเรามีเชื้อจุลินทรีย์เยอะมากครับ การใส่สกินแคร์ที่สัมผัสกับมือแล้วกลับเข้าไป ก็เหมือนกับใส่เชื้อเข้าไปนั่นเองครับ
– อย่า!!!ใส่น้ำเข้าไปเด็ดขาดครับ พบมากในสบู่เหลว แชมพู ครับ การใส่น้ำเข้าไปมีความเสี่ยงถึงสองข้อคือ 1)ใส่น้ำเท่ากับใส่เชื้อลงไป 2)น้ำไปเจือจางความเข้มข้นของสารกันบูดเดิมทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– อย่า!!!แบ่งบรรจุโดยไม่จำเป็น เนื่องจากภาชนะที่นำมาใส่นั้นส่วนใหญ่ไม่สะอาดครับ แต่หากจำเป็นจริงๆ ผมแนะนำให้เช็ดหรือกลั้วภาชนะด้วย 70% ethanol แล้วผึ่งให้แห้งก่อนแล้วใช้เข็มฉีดยาแบบที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วเป็นเครื่องมือในการแบ่งบรรจุจะดีที่สุดครับ

สารสำคัญเสื่อมสภาพ

สิ่งนี้ก็ไม่อยากให้เกิดเหมือนกันครับ แต่ถ้าถามผมว่า หากสารสำคัญเสื่อมสภาพแล้วต้องทิ้งเลยมั้ย คำตอบคือ ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ยกตัวอย่างเช่น เซรั่มวิตามินซี สมมติว่าวิตามินซีเสื่อมสลายไป สังเกตได้จากสีที่เหลืองเข้มขึ้น แต่ก็อาจจะมีบางส่วนที่ยังคงสภาพดีอยู่ หรือส่วนประกอบอื่นๆในสูตรตำรับเช่น สารให้ความชุ่มชื้น สารสกัดตัวอื่นๆก็ยังดีอยู่ครับ ถ้าอยากจะใช้ต่อไปก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ

สาเหตุของการที่สารสำคัญเสื่อมสภาพก็คือ ความร้อน,แสงแดด, ออกซิเจน ไปทำลายโครงสร้างทางเคมีของสารนั้นๆ ทำให้หมดฤทธิ์ไป โดยสารที่เสื่อมสภาพนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มีพิษภัยอะไรต่อร่างกาย ยกเว้นในบางกรณีซึ่งพบได้น้อยมาก สารที่เสื่อมสภาพนั้นอาจมีผลเสียต่อร่างกายได้ครับ

วิธีการป้องกัน
– ในความเป็นจริงแล้วความร้อน อากาศ แสงแดด เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากมากถึงมากที่สุดครับ อาจจะจริงที่การใช้ขวดทึบแสง หรือกลไกบางอย่างของปั๊มพ์ หรือวัสดุบางชนิดสามารถข่วยชะลอการเสื่อมสภาพของสารสำคัญได้ แต่ก็เพียงแค่การชะลอเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดการเสื่อมสภาพได้อย่าง100%
– ดังนั้นวิธีการป้องกันการเสื่อมสภาพที่ดีที่สุดก็คือ หลังจากเปิดใช้แล้วควร “รีบใช้ให้หมด” ครับ โดยระยะเวลาที่เหมาะสมในการใช้ให้หมดหลังเปิดใช้แล้วคือ ประมาณ6เดือน ครับ

ขุ่นหรือมีของแข็งตกตะกอนออกมา

ของแข็งตกตะกอนเป็นความเสียหายที่พบมากในครีมกันแดดที่ถูกเก็บในที่เย็นจัดๆ เข่นประเทศเมืองหนาว บางคนเอาครีมกันแดดไปทาบนลานสกี เพื่อป้องกันผิวไหม้แดดจากแสงยูวีที่สะท้อนจากหิมะเป็นต้น เวลาบีบครีมออกมาทาลงบนผิว ของแข็งเหล่านั้นจะขูดผิวรู้สึกได้ทันทีว่าผิดปกติครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับปริมาณตะกอนที่ตกออกมาด้วยครับ ถ้าน้อยๆบางทีก็ไม่รู้สึกครับ ส่วนในเมืองไทยเรานั้นไม่มีบานสกี ยกเว้นดรีมเวิร์ลมีลานสกี แต่ก็ไม่มีแดด ดังนั้นคงไม่เกิดปัญหานี้แน่นอนครับ ยกเว้นว่าคุณจะเอาครีมกันแดดไปแช่ตู้เย็นครับ ครีมกันแดดเป็นสิ่งเดียวที่ผมขอบอกว่าอย่าเอาไปแช่ตู้เย็นเลยครับ

ส่วนสกินแคร์อื่นๆหลายคนอาจจะเก็บแช่ในตู้เย็น ผมว่าไม่เป็นไรหรอกครับ เอาจริงๆความเย็นช่วยได้หลายอย่าง ชะลอการเสื่อมสลายของสาร ชะลอการระเหยของน้ำ ชะลอการแยกชั้นของน้ำมัน

หลายท่านอาจจะเคยอ่านบทความประมาณว่า ห้ามเก็บสกินแคร์ในตู้เย็น ผมมองว่าบทความเหล่านั้นอาจจะกังวลว่าการเอาสกินแคร์เข้าๆออกตู้เย็นจะทำให้ครีมเสื่อมสภาพ แต่ผมกลับมีความเห็นต่างครับ เพราะตู้เย็นอุณหภูมิประมาณ 5-8องศา นอกตู้เย็น 25-35 องศา ในช่วงอุณภูมิเหวี่ยงประมาณนี้แทบมีผลต่อการเสื่อมสภาพเลยครับ แต่ถ้ากลับกัน เอาไปใส่ช่องฟรีซ หรือ ช่องเนื้อสัตว์ที่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้ อันนี้มีผลเสียแน่นอนครับ เพราะน้ำในสกินแคร์จะแข็งเป็นน้ำแข็ง บางส่วนแข็งเกาะอยู่ที่ฝาที่อาจจะมีเชื้อโรคอยู่ และเวลาละลายออกมาก็จะทำลายโครงสูตรของสกินแคร์ อีกทั้งยังละลายเชื้อโรคหยดกลับลงมาในสกินแคร์ อีกด้วยครับ

ดังนั้นถ้าท่านชอบความเย็นเวลาทา การแค่เก็บสกินแคร์ในตู้เย็น หยิบออกมาทา วางไว้บนโต๊ะ ลืมเก็บเข้าตู้เย็น พรุ่งนี้เช้าตื่นมาค่อยเก็บ เอาเข้าเอาออกแบบนี้ผมว่าไม่ซีเรียสมากหรอกครับ ก็ทาแล้วเย็นๆมันฟินดีนี่ครับ

อีกกลุ่มที่พบบ่อยคือกลุ่มน้ำมันครับ ไม่ว่าจะเป็น oil serum, oil cleanser, oil shampoo, massage oil ก็ตาม ความเย็นจะทำให้น้ำมันบางชนิดขุ่นได้ครับ สาเหตุก็เนื่องมาจากไขมันอิ่มตัวในน้ำมันนั้นๆกลายเป็นของแข็งนั่นเองครับ วิธีแก้ไข ก็แค่เอามาเก็บไว้ในที่อุ่นหน่อย ถ้ากลับมาใสเหมือนเดิมก็ใช้ต่อได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ

น้ำกับน้ำมันแยกชั้นกัน

ความเสียหายนี้ถ้าเป็นไม่มากจะสังเกตได้ยากครับ เพราะน้ำมันที่แยกชั้นออกมามักมีปริมาณน้อย ยกเว้นสูตรตำรับถูกออกแบบมาไม่ดี หรือถูกแรงบีบทำให้โครงสร้างที่หุ้มไขมันเอาไว้นั้นเสียหายไขมันจึงแยกตัวออกมา หรือสกินแคร์ถูกเก็บไว้ในที่ร้อนจัดเช่น ในรถที่จอดกลางแจ้ง หรือบริเวณใกล้หน้าต่างทิศตะวันตก

บางทีเปิดฝากระปุกครีมออกมา น้ำมันลอยเยิ้มเลยครับ ซึ่งถ้าถามผมว่า ถ้าเจอแบบนี้ต้องทิ้งเลยมั้ย คำตอบก็คือ ถ้ามันแพงผมจะไม่ทิ้งครับ ผมจะหาช้อนเล็ก ๆ เช็ดฆ่าเชื้อด้วย Ethanol มากวนน้ำมันที่ลอยเยิ้มนั้นลงไปให้เข้ากัน แล้วรีบใช้ต่อจนหมดกระปุกครับ เพราะในความเป็นจริงแล้วน้ำกับน้ำมันตอนก่อนผลิตออกมาเป็นครีม มันก็แยกชั้นแบบนี้แหละครับ ผู้ผลิตจะกวนน้ำกับน้ำมันให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันด้วยเครื่องมือที่มีแรงกวนสูง ดังนั้น ถ้าหากเราเจอมันแยกชั้นอีก เราก็กวนใหม่ก็แค่นั้นเองครับ หลายคนอาจจะเถียงอยู่ในใจว่า แล้วมันจะเข้าเป็นเนื้อเดียวกันเหรอ คำตอบคือ ไม่มีทางครับ แต่ก็ดีกว่าทิ้ง (เพราะมันแพง) หรือใช้ทั้ง ๆ ที่น้ำมันเยิ้มแบบนั้นไม่ใช่เหรอครับเหรอครับ

Tag : Beauty tips

#AMTSkincare #AMTfamily #YourSkinGuardian #Handbook #Skincare #สกินแคร์

ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่

https://linktr.ee/AMTSkincare

บทความอื่นๆ

ion casino

ion casino

sbotop

slot bet 100

joker123 gaming

slot deposit pulsa tanpa potongan

slot deposit pulsa tanpa potongan

bonus new member

slot filipina

slot myanmar

slot vietnam

slot garansi kekalahan 100

judi bola

slot myanmar

depo 25 bonus 25 to kecil

slot vietnam

depo 25 bonus 25

demo slot sugar rush

akun pro myanmar

slot bet kecil

bonus new member

bonus new member

joker123

demo lucky neko

slot joker123

slot garansi kekalahan

https://robertoduarte.com.br/wp-includes/Slot777/

https://billig-is.dk/wp-content/slot777/

https://www.firshop.com/wp-includes/slot777/

https://simone.co.uk/wp-content/slot777/

joker123

Situs Slot777

situs slot server kamboja

Slot Gacor 777

sbobet

situs slot server thailand

Slot Gacor 777

https://pabloscobar.com/wp-includes/slot777/

https://www.aprendetrompeta.com/wp-admin/slot777/

https://www.carehealth.uk/wp-includes/slot777/

https://justforbaby.co/slot777/

ion slot gacor

judi bola online

slot777

slot777

slot bet 100

slot bet 100

https://creativelifestyleblog.com/