
“Skin Moisture” หมายถึง ของเหลวทั้งหมดในผิวทั้งน้ำและรวมทั้งไขมันด้วย แล้ว Ingredients ใน Skincare ที่จะช่วยเพิ่ม Skin Moisture ให้ทราบกันว่า พวกเขานั้นมีกี่ชนิด และทำงานกับผิวเราอย่างไรบ้าง

Moisture (n.) ตาม Oxford learning dictionary ให้นิยามไว้แบบนี้ “very small drops of water or other liquid that are present in the air, on a surface or in a substance” หรือ แปลว่า หยดเล็กๆของน้ำหรือของเหลวอื่นๆที่อยู่ในอากาศ พื้นผิว หรือภายในสสาร แต่พอมาดูที่ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ ชุ่มชื้น เป็นคำวิเศษณ์ หมายความว่า มีไอนํ้าหรือนํ้าซึมซาบชุ่มอยู่ หรือถ้าเราทำให้เป็นอาการนาม โดยการเติม “การ” หรือ “ความ” ลงไป ความชุ่มชื้น(น.) การที่มีไอนํ้าหรือนํ้าซึมซาบชุ่มอยู่
จะเห็นได้ว่า ความหมายใน ภาษาไทย แปลมาไม่หมด
เอาน้ำมาอย่างเดียว ที่จริงแล้ว “moisture” หมายรวมถึงของเหลวทุกชนิด
ดังนั้น Skin moisture จึงหมายถึง ของเหลวทุกชนิด ได้แก่ น้ำและไขมันที่ชุ่มอยู่ในผิว

Ingredient ใน Skincare ที่จะให้ Moisture กับผิวเราในทาง Cosmetic Science แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. Humectant
หลักการของสารนี้คือ ซึมผ่านไปทุก ๆ เซลล์(ทั้งตายและมีชีวิต) ในผิวหนังชั้นนอกแล้วอุ้มน้ำไว้ในเซลล์ ทำให้เซลล์ชุ่มน้ำ
สารในกลุ่มยกตัวอย่างเช่น Gglycerin, 1,3-BG, DPG, น้ำตาลต่างๆ, Hyaluronic acid, Collagen, Panthenol, Urea, Sodium PCA แต่ละตัวก็คุณสมบติต่าง ๆ กันไป เดี๋ยวไว้จะมาเล่ารายละเอียดทีหลัง

2. Emolient
กลุ่มนี้คือ ของเหลวที่เป็นน้ำมันที่มีคุณสมบติซึมซาบเข้าผิวดี หรือในทาง cosmetic science เรียกว่า polar oil เวลาทาลงไปที่ผิว จะซึมเร็วทำให้ play time หรือระยะเวลาที่น้ำมันจะลื่นๆอยู่บนผิวสั้น แล้วก็จะซึมเข้าไปในผิว
หลักการทำงาน คือ ซึมผ่านไปทุก ๆ เซลล์(ทั้งตายและมีชีวิต) ในผิวหนังชั้นนอกแล้วทำให้ผนังเซลล์ที่แห้งเป็นขุยนิ่มขึ้น อีกทั้ง Emolient ยังจะเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างเซลล์ผิว ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำในผิว
สารในกลุ่มยกตัวอย่างเช่น vegetable oil ทุกชนิด น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว และอื่นๆ อีกมาก, ester oil หรือ คือน้ำมันที่เกิดจากการผสมระหว่าง กรดไขมัน กับ แอลกอฮอล์ ตัวที่ใช้กันมากใน Skincare เช่น triethylhexanoin , caprylic/capric triglyceride

3. Occlusive
หลักการทำงานคือ ไม่ซึมไปไหน อยู่แค่พื้นผิว ทำงานเหมือนฝาปิดไม่ให้น้ำในผิวระเหยไป ทำให้น้ำที่ให้ไปถูกกักเก็บไว้ในผิวอยู่ได้นาน ถ้าใช้กลุ่มนี้อย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องให้น้ำไขมันให้เต็มที่ก่อนค่อยปิดฝา ฝาจะปิดดีแค่ไหนก็แล้วแต่ชนิดของสาร
สารในกลุ่มยกตัวอย่างเช่น mineral oil (baby oil นี่แล่ะ), Vaseline (หรือก็คือ mineral oil แบบเป็นกึ่งแข็งกึ่งเหลว)

สรุป Ingredient ทั้ง 3 กลุ่มนี้ มีผลต่อ Skin Moisture ทั้งหมด จะขาดตัวใดตัวหนึ่งไปไม่ได้ แต่จะผสมกับตัวไหนในอัตราส่วนเท่าไหร่ ลำดับการใช้ตัวไหนก่อนหรือหลังดี ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญอย่างเรานะครับ
Tag : ปัญหาผิวแห้ง
#AMTSkincare #AMTFamily #YourSkinGuardian #Skincare #สกินแคร์ #ผิวสุขภาพดี
ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่

“Skin Moisture” หมายถึง ของเหลวทั้งหมดในผิวทั้งน้ำและรวมทั้งไขมันด้วย แล้ว Ingredients ใน Skincare ที่จะช่วยเพิ่ม Skin Moisture ให้ทราบกันว่า พวกเขานั้นมีกี่ชนิด และทำงานกับผิวเราอย่างไรบ้าง

Moisture (n.) ตาม Oxford learning dictionary ให้นิยามไว้แบบนี้ “very small drops of water or other liquid that are present in the air, on a surface or in a substance” หรือ แปลว่า หยดเล็กๆของน้ำหรือของเหลวอื่นๆที่อยู่ในอากาศ พื้นผิว หรือภายในสสาร แต่พอมาดูที่ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ ชุ่มชื้น เป็นคำวิเศษณ์ หมายความว่า มีไอนํ้าหรือนํ้าซึมซาบชุ่มอยู่ หรือถ้าเราทำให้เป็นอาการนาม โดยการเติม “การ” หรือ “ความ” ลงไป ความชุ่มชื้น(น.) การที่มีไอนํ้าหรือนํ้าซึมซาบชุ่มอยู่
จะเห็นได้ว่า ความหมายใน ภาษาไทย แปลมาไม่หมด
เอาน้ำมาอย่างเดียว ที่จริงแล้ว “moisture” หมายรวมถึงของเหลวทุกชนิด
ดังนั้น Skin moisture จึงหมายถึง ของเหลวทุกชนิด ได้แก่ น้ำและไขมันที่ชุ่มอยู่ในผิว

Ingredient ใน Skincare ที่จะให้ Moisture กับผิวเราในทาง Cosmetic Science แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. Humectant
หลักการของสารนี้คือ ซึมผ่านไปทุกๆเซลล์(ทั้งตายและมีชีวิต) ในผิวหนังชั้นนอกแล้วอุ้มน้ำไว้ในเซลล์ ทำให้เซลล์ชุ่มน้ำ
สารในกลุ่มยกตัวอย่างเช่น Gglycerin, 1,3-BG, DPG, น้ำตาลต่างๆ, Hyaluronic acid, Collagen, Panthenol, Urea, Sodium PCA แต่ละตัวก็คุณสมบติต่างๆกันไป เดี๋ยวไว้จะมาเล่ารายละเอียดทีหลัง

2. Emolient
กลุ่มนี้คือ ของเหลวที่เป็นน้ำมันที่มีคุณสมบติซึมซาบเข้าผิวดี หรือในทาง cosmetic science เรียกว่า polar oil เวลาทาลงไปที่ผิว จะซึมเร็วทำให้ play time หรือระยะเวลาที่น้ำมันจะลื่นๆอยู่บนผิวสั้น แล้วก็จะซึมเข้าไปในผิว
หลักการทำงาน คือ ซึมผ่านไปทุกๆเซลล์(ทั้งตายและมีชีวิต) ในผิวหนังชั้นนอกแล้วทำให้ผนังเซลล์ที่แห้งเป็นขุยนิ่มขึ้น อีกทั้ง Emolient ยังจะเข้าไปแทรกอยู่ระหว่างเซลล์ผิว ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำในผิว
สารในกลุ่มยกตัวอย่างเช่น vegetable oil ทุกชนิด น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว และอื่นๆ อีกมาก, ester oil หรือ คือน้ำมันที่เกิดจากการผสมระหว่าง กรดไขมัน กับ แอลกอฮอล์ ตัวที่ใช้กันมากใน Skincare เช่น triethylhexanoin , caprylic/capric triglyceride

3. Occlusive
หลักการทำงานคือ ไม่ซึมไปไหน อยู่แค่พื้นผิว ทำงานเหมือนฝาปิดไม่ให้น้ำในผิวระเหยไป ทำให้น้ำที่ให้ไปถูกกักเก็บไว้ในผิวอยู่ได้นาน ถ้าใช้กลุ่มนี้อย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องให้น้ำไขมันให้เต็มที่ก่อนค่อยปิดฝา ฝาจะปิดดีแค่ไหนก็แล้วแต่ชนิดของสาร
สารในกลุ่มยกตัวอย่างเช่น mineral oil (baby oil นี่แล่ะ), Vaseline (หรือก็คือ mineral oil แบบเป็นกึ่งแข็งกึ่งเหลว)

สรุป Ingredient ทั้ง 3 กลุ่มนี้ มีผลต่อ Skin Moisture ทั้งหมด จะขาดตัวใดตัวหนึ่งไปไม่ได้ แต่จะผสมกับตัวไหนในอัตราส่วนเท่าไหร่ ลำดับการใช้ตัวไหนก่อนหรือหลังดี ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญอย่างเรานะครับ
Tag : ปัญหาผิวแห้ง
#AMTSkincare #AMTFamily #YourSkinGuardian #Skincare #สกินแคร์ #ผิวสุขภาพดี
ติดตามและเป็นกำลังใจให้กับพวกเราได้ที่